วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2554

วัฏจักร Kreb

Krebs Cycle


 
-          ชื่ออื่นๆ Tricarboxylic acid cycle , Citric acid cycle
-          เกิดที่ matrix
-          เป็นวัฏจักรที่ทำให้ C อินทรีย์ 2 อะตอมที่เหลือ ถูกออกซิไดส์เป็น C อนินทรีย์ของ Co2 ทั้งหมด
-          เก็บอิเล็กตรอนที่หลุดออกมาไว้ใน NADH และ FADH2



รูปแสดงวัฏจักรเครปส์


จากรูป : วัฏจักรเครปส์เริ่มด้วย แอซีติลโค เอ รวมตัวกับ ออกซาโลแอซีเตต (oxaloacetate)
ให้ได้ ซิเตรต (citrate)และโคเอนไซม์ เอ (CoA-SH) ซึ่งซิเตรตจะเปลี่ยนแปลงไปเป็น
ไอโซเมอร์ของมันคือ ไอโซซิเตรต (isocitrate) ต่อไปสารนี้จะสูญเสียคาร์บอนไดออกไซด์
กลายเป็น แอลฟาคีโตกลูตาเรต (
-ketoglutarate) ซึ่งจะสูญเสียคาร์บอนไดออกไซด์
อีกตัวหนึ่งกลายเป็น ซัคซินิลโคเอ (succinyl CoA) จากนั้นเป็นการเปลี่ยนซัคซีนิลโคเอ
ให้เป็น ซัคซิเนต (succinate) ฟูมาเลต (fumalate) และ มาเลต (malate) ตามลำดับ

วัฏจักรเครปส์มีเอนไซม์ที่สามารถให้อิเล็กตรอนแก่ NAD+ ซึ่งจะเปลี่ยนเป็น NADH
อยู่สามปฏิกิริยา คือ ไอโซซิเตรตดีไฮโดรจีเนส (isocitrate dehydrogenase) แอลฟาคีโต-
กลูตาเรตดีไฮโดรจีเนส (
-ketoglutarate dehydrogenase) และ มาเลตดีไฮโดรจีเนส
(malate dehydrogenase) และยังมีเอนไซม์ ซัคซิเนตดีไฮโดรจีเนส (succinate dehydrogenase) ที่จะให้อิเล็กตรอนแก่ FAD เกิดเป็น FADH2

สมการ : 2AcetylCoA + 6H2O + 2ADP + 2Pi 4CO2 + 2ATP + 16H + 2CoA

วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2554

การสร้าง Acetyl CoA

การสร้าง Acetyl CoA



-          เป็นสารเริ่มต้นของ Krebs cycle
-          เกิดที่ Matrix
-          เป็นการทำให้กรด C 3 อะตอมจากกระบวนการที่ไกลโคไลซิส แต่ละโมเลกุลเหลือเป็นสาร C 2 อะตอม
-          เกิดเป็น คาร์บอนไดร์ออกไซค์ หลุดออกมา และเก็บเกี่ยวอิเล็คตรอนไว้ใน NADH




สมการที่ได้ : 2pyruvate + 2CoA - - - > 2 AcetylCoA + 2CO2 + 4H


การหายใจระดับเซลล์

การหายใจระดับเซลล์

การหายใจระดับเซลล์ ( Cellular Respiration ) จัดเป็น catabolism อย่างหนึ่ง คือกระบวนการสลายสารอาหารเพื่อเปลี่ยนแปลงพลังงานเคมีซึ่งอยู่ในรูปของพันธะเคมี ให้มาอยู่ในรูปของพลังงานเคมีในสารประกอบพลังงานสูงเช่น ATP ที่ใช้ใน Metabolism ต่างๆของเซลล์ โดยแบ่งออกเป็น 2 แบบ

1.      แบบใช้Oxygen ( Aerobic respiration )  

-          มี oxygen เป็นตัวรับอิเล็คตรอนตัวสุดท้าย
-          มีการสลายพันธะเคมี
-          พลังงานในพันธะเคมีที่อยู่ในรูปของอิเล็กตรอน จะถูกเก็บด้วยตัวนำอิเล็คตรอนสองชนิดคือ NAD+ และ FAD ให้กลายเป็น NADH และ FADH2

มี 4 ขั้นตอนย่อยคือ Glycolysis , การสร้าง Acetyl CoA , Kreb’s Cycle , Electron transport chain

Glycolysis



-          เกิดที่ Cytosol โดยสลายกลูโคส ( C 6 อะตอม ) ให้อยู่ในรูปของกรดไพรูวิก ( C 3 อะตอม ) 2 โมเลกุล โดยจะได้พลังงานทั้งในรูป ATP และ NADH (ซึ่งเก็บพลังงานเคมีไว้ในตัว) กระบวนการนี้เกิดขึ้นกับเซลล์ของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ดังรูป


ปฏิกิริยาในไกลโคไลซิสแบ่งได้เป็นสองช่วงคือ
  • ช่วงการเตรียมการ (preparation phase) เป็นขั้นตอนที่ต้องการ ATP และมีการแบ่งกลูโคสออกเป็นน้ำตาลที่มีคาร์บอน 3 ตัว 2 โมเลกุล ปฏิกิริยาในช่วงนี้ได้แก่
    • เติมฟอสเฟตที่คาร์บอนตัวที่ 6 ของกลูโคสได้เป็นกลูโคส -6-ฟอสเฟต ใช้ไป 1 ATP
    • เปลี่ยนกลูโคส 6 ฟอสเฟตไปเป็น ฟรุกโตส 6 ฟอสเฟต
    • เพิ่มฟอสเฟตให้ ฟรุกโตส 6 ฟอสเฟต เป็นฟรุกโตส 1,6- บิสฟอสเฟต ใช้ไป 1 ATP
    • แตกโมเลกุลของ ฟรุกโตส 1,6- บิสฟอสเฟต ไปเป็นไดไฮดรอกซีอะซีโตนฟอสเฟต (dihydroxyacetonephosphate) กับ กลีเซอรอลดีไฮด์- 3- ฟอสเฟต (glyceraldehydes – 3- phosphate)
    • ไดไฮดรอกซีอะซีโตนฟอสเฟต เปลี่ยนมาเป็น กลีเซอรอลดีไฮด์- 3- ฟอสเฟต
  • ช่วงที่ได้คืน (payoff phase) เกิดปฏิกิริยาดังต่อไปนี้
    • เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น เปลี่ยน กลีเซอรอลดีไฮด์- 3- ฟอสเฟตเป็น 1,3-บิสฟอสโฟกลีเซอเรต (1,3-bisphosphoglycerate) ได้ NADH + H+ 1 โมเลกุล
    • ย้ายหมู่ฟอสเฟตจาก 1,3-บิสฟอสโฟกลีเซอเรต ไปยัง ADP ได้ ATP กับ 3-ฟอสโฟกลีเซอเรต (3-phosphoglycerate)
    • เปลี่ยน 3-ฟอสโฟกลีเซอเรต เป็น 2-ฟอสโฟกลีเซอเรต
    • เปลี่ยน 2-ฟอสโฟกลีเซอเรต ไปเป็น ฟอสโฟอีนอลไพรูเวต (phosphoenolpyruvate)
    • ย้ายหมู่ฟอสเฟตจากฟอสโฟอีนอลไพรูเวตไปยัง ADP ได้ 1 ATP และไพรูเวต

สมการของขั้น Glycolysis คือ : กลูโคส + 2ADP + 2ฟอสเฟต - - - > 2 ไพรูวิก + 2ATP + 4H